52 เทคนิคดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรค ตอนที่ 1

อาหารเช้าคือมื้อที่สำคัญที่สุด

ในสังคมปัจจุบันนี้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ที่คนส่วนใหญ่มิได้ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า  เนื่องจากต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเพื่อไปเรียนหรือไปทำงาน  คนไทยเราจะให้ความสำคัญกับอาหารเย็น เน้นว่าเป็นมื้อที่ต้องรับประทานอาหารหนักๆ  มากกว่ามื้อกลางวัน ส่วนมื้อเช้านั้นบางคนข้ามไปเลย บางคนก็ดื่มกาแฟเพียง 1  ถ้วยเท่านั้น  สังเกตให้ดีจะพบว่าคุณจะรู้สึกไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าถ้ามื้อเช้าคุณไม่ได้ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการ  คืออาหารโปรตีนสูงและไขมันอย่างพอเพียง  อาหารเช้าที่หนักเกินไปก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง  ร่างกายต้องการเพียงสารอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณไม่มากนัก  เพื่อที่คุณจะได้มีกำลังวังชา สมองปลอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่า  พลังงานจะอยู่ในร่างกายคุณเป็นเวลานานและทำให้คุณไม่หิวบ่อยถ้าได้รับประทานอาหารเช้าที่ดี  อาหารเย็นไม่ควรเป็นมื้อหนักสำหรับคุณ  เพราะคุณอาจยังไม่รู้สึกหิวในมื้อเช้า

แก้อาการแสบกระเพาะอย่างไร
โรคกระเพาะอาหารนั้นมีอาการปวดท้องและแสบกระเพาะซึ่งเป็นเรื่องแสนทุกข์ทรมานอย่าง  ยิ่งสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร วิธีง่ายๆ  ที่คุณสามารถบำบัดเยียวยาอาการปวดแสบนั้นให้หายไปได้ก็คือ  รับประทานอาหารแต่ละมื้อแต่ละวันเพียงเล็กน้อยพออิ่ม อย่ารับประทานมากๆ  เพียงเพื่อความอร่อยเท่านั้น โดยเฉพาะอาหารเปรี้ยวจัด เค็มจัด เผ็ดจัด ควรงดเด็ดขาด  การรับประทานกล้วยกับน้ำผึ้งหรือรับประทานเนยถั่วก็เป็นเมนูพิเศษที่ดีสำหรับป้องกันอาการปวดแสบหรือแสบเกี่ยวกับแผลในกระเพาะ  แต่ไม่จำเป็นต้องรับประทานมากๆ เพียงครั้งคราวก็พอแล้ว  หัวใจสำคัญอยู่ที่การรับประทานอาหารน้อยๆ เท่านั้นเอง  และมีอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแสบกระเพาะได้ด้วยเช่นกัน  นั่นก็คือการสูบบุหรี่ ซึ่งคุณควรเลิกทันทีตั้งแต่เริ่มเป็นโรคกระเพาะ

คุณแม่คนใหม่ไม่ควรแตะต้องบุหรี่และแอลกอฮอล์
เมื่อคุณผู้หญิงตั้งครรภ์แล้ว  การเตรียมตัวเป็นคุณแม่คนใหม่ที่ควรกระทำเป็นอันดับแรกก็คือ เลิกสูบบุหรี่  และเลิกดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด  คุณรู้ไหมว่าลูกน้องที่เกิดมาจากคุณแม่ผู้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะมีน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าปกติ  นอกจากนั้นยังมีผลกระทบถึงพฤติกรรมในเวลาต่อมา เช่น จะเป็นเด็กที่ตื่นตกใจง่าย  เวลาร้องไห้ก็จะมีเสียงสั่นและแหลม การขยับแขนขาค่อนข้างรุนแรงกว่าในระดับปกติ

กินวิตามินซี  ห่างไกลอาการเลือดออกตามไรฟัน
ถ้าช่วงใดที่คุณพบว่ามีเลือดออกตามไรฟันในขณะแปรงฟันตอนเช้าหรือก่อนนอน  หรือบางครั้งก็มีเลือดออกมาตามไรฟันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อยู่ในช่วงแปรงฟัน  คุณจะต้องตระหนักทันทีว่าร่างกายขาดวิตามินซีแล้วในช่วงนั้น  การเติมวิตามินซีให้ร่างกายอย่างพอเพียงนั้นก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าคนเราต้องการวิตามินซีมากน้อยเท่าใดในแต่ละวัน  สำหรับวัยผู้ใหญ่ควรได้วิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม เด็กๆ ต้องการวิตามินซีประมาณ  30 มิลลิกรัม คนเราจะต้องกินอาหารที่มีวิตามินซีให้พอเพียงทุกๆ วัน  เพราะวิตามินซีจะไม่ได้ถูกร่างกายเก็บสะสมไว้ แต่จะขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ  ถ้าคนเรากินวิตามินซีมากเกินกว่าที่ร่างกายจะนำไปใช้  ดังนั้นคุณต้องกินวิตามินซีทุกๆ วัน ไม่ใช่กินวันนี้มากๆ เผื่อวันอื่นๆด้วย  เพราะไม่ว่าจะกินมากอย่างไรร่างกายก็ดูดซึมไปไม่หมดแน่ แต่การกินวิตามินซีมากๆ  นั้นไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย ยิ่งจะมีประโยชน์ด้วยสำหรับการขับถ่าย  โดยเฉพาะถ้าคุณกินวิตามินซีจากแหล่งอาหารอย่างผักและผลไม้ ถ้าคุณรับประทานมะม่วงดิบ  100 กรัม ก็จะได้วิตามินซีประมาณ 60 มิลลิกรัมอย่างสบายๆ

กระเทียมดูแลหัวใจ
กระเทียมเป็นของคู่ครัวที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี  แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในกระเทียมนั้นมีสารอาหารสำคัญมากมายมหาศาลที่ล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณทางยาอย่างน่าอัศจรรย์  กระเทียมช่วยป้องกันอาการหัวใจล้มเหลว ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ  บำรุงประสาท กระตุ้นให้จิตใจสดใส ไม่หดหู่ ซึมเศร้า ไม่เป็นโรคเหน็บชา  กล้ามเนื้อแข็งแรง มีกำลังวังชา กระตุ้นให้ร่างกายเกิดความอยากอาหาร เยียวยาอาการไอ  รักษาโรคพยาธิ ขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงระบบทางเดินหายใจ  บรรเทาอาการที่เกี่ยวกับโรคลำไส้ บำรุงเลือด ป้องกันโรคตับ โรคเส้นโลหิตตีบตัน  บำบัดอาการโรครูมาติซึม โรคข้ออักเสบ ต้านทานโรคภูมิแพ้ ช่วยลดคอเลสเตอรอล  นอกจากนั้นกระเทียมยังรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้อีกด้วย  ถ้าคุณรับประทานกระเทียมสม่ำเสมอโรคภัยอันตรายต่างๆ  จะไม่มากล้ำกรายร่างกายทำลายสุขภาพของคุณได้แน่นอน  กระเทียมช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย  คนที่มีไขมันอุดตันในเส้นเลือดมากอาจเกิดการหัวใจวายได้  การรับประทานกระเทียมเป็นประจำเท่ากับว่าคุณได้ดูแลหัวใจของคุณให้แข็งแรงไว้ก่อนที่จะมีอาการใดๆ  เกิดขึ้น

เมื่อไร้เรี่ยวแรง  หน้ามืด  วิงเวียน  แก้ไขรวดเร็วได้อย่างไร
เมื่อคุณทำงานหนักอย่างต่อเนื่องหรือออกกำลังกายอย่างหักโหมคุณจะรู้สึกตัวสั่น  หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม หรือรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง  แสดงว่าขณะนั้นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำลง  คุณสามารถฟิตสภาวะของร่างกายให้สดชื่นขึ้นมาได้อย่างทันทีทันใดด้วยการรับประทานน้ำส้มคั้นสดๆ  สักแก้ว  ซึ่งเป็นทางออกที่ถูกต้องและมีประโยชน์มากกว่าดื่มน้ำผสมกลูโคสหรือเครื่องดื่มที่ผสมสารรสหวานใดๆ  อาหารประเภทบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าว ขนมปัง ถั่วต่างๆ ผักสดและผลไม้สดๆ ทุกชนิด  จะนำพลังและความสดชื่นมาสู่ร่างกาย  นำน้ำตาลสู่สมองของคุณอย่างถูกต้องและปลอดภัยได้ผลเร็วกว่าการดื่มเครื่องดื่มผสมน้ำตาลที่เรามักเข้าใจผิดกันมาโดยตลอด

น้ำมันตับปลา อาหารเสริมที่น่าสนใจ
เรามักเข้าใจว่าน้ำมันตับปลาเป็นอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เท่านั้น  แต่ความจริงแล้วแม้แต่คนในวัยหนุ่มสาวและผู้ใหญ่  ผู้สูงอายุก็สมควรสนใจอาหารเสริมตัวนี้อย่างจริงจังเช่นกัน  น้ำมันตับปลาช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง  กระตุ้นให้การเผาผลาญในร่างกายเป็นไปอย่างดีเยี่ยม เด็กๆ หรือ  ผู้ใหญ่ที่เริ่มที่จะผอมแห้งแรงน้อย เจ็บป่วยง่าย ร่างกายขาดสารอาหาร  ก็ควรรับประทานน้ำมันตับปลา ซึ่งปัจจุบันก็มีรสต่างๆ เพื่อให้รับประทานได้ง่าย  และมีชนิดแคปซูลอีกด้วย

หอมหัวใหญ่ไม่ใช่ตัวประกอบ
ในอาหารจานต่างๆ  ที่มีหอมหัวใหญ่ประกอบอยู่ด้วยนั้นส่วนใหญ่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงตัวประกอบที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารจานนั้น มิได้เป็นตัวเด่นตัวเอกแต่อย่างใด  แต่แท้จริงแล้วหอมหัวใหญ่เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายเช่น แคลเซียม  เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เอ บี1 และบี2 โดยเฉพาะ “กำมะถัน”  คือแร่ธาติสำคัญที่จะบันดาลผิวพรรณอันเปล่งปลั่งสดใสให้กับคุณได้อย่างวิเศษ  ซึ่งมีกำมะถันในหอมหัวใหญ่มากมายทีเดียว  ถ้าคุณรับประทานหอมหัวใหญ่สม่ำเสมอผิวพรรณของคุณจะดูผุดผ่อง มีสีเลือดฝาด  บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของผิวความเนียนละมุนละไมจะเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  หอมหัวใหญ่ทำให้คุณขับถ่ายสะดวกสบายและยังทำให้นอนหลับได้ง่ายแบบสบายๆ อีกด้วย  คนที่เป็นหวัดง่ายหรือแพ้อากาศก็ควรรับประทานหอมหัวใหญ่เสมอๆ  ซุปมันฝรั่งใส่หอมหัวใหญ่ ไข่เจียวหอมหัวใหญ่ ยำต่างๆ สลัดต่างๆ  เหล่านี้คือเมนูหอมหัวใหญ่ที่คุณควรใส่ใจ

มะเขือเทศอาหารวิเศษเพื่อสุขภาพ
มะเขือเทศฝานบางๆ  สีแดงอมส้มสดใสน่ากินมักกลายเป็นเครื่องประดับอาหารจานอร่อยหลากหลายรายการ  เป็นต้นว่าข้าวผัด ยำต่างๆ ของทอดของว่างต่างๆ  โดยที่บางท่านไม่แตะต้องมันเลยสักชิ้น  แต่คุณรู้บ้างไหมว่าถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเพียงวันละ 1-2 ลูกเท่านั้น  จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายของคุณมากมายมหาศาลเพียงใด ต้านโรคความดันโลหิตสูง  บำรุงดวงตา บำรุงสายตา บำบัดอาการปัสสาวะขัด บำรุงเหงือกและฟัน  ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว เยียวยาโรคเลือดออกตามไรฟัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ  คุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย แก้ท้องผูก บำรุงผิวพรรณ  ทั้งหมดที่กล่าวมานี้…ถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำสม่ำเสมอ วันละ 1-2  ลูกทุกวัน สุขภาพของคุณก็จะสดชื่นแข็งแรง  และได้ประโยชน์จากสรรพคุณอันแสนวิเศษของมะเขือเทศทั้งหมดนั้นอย่างแน่นอน

อายุมากไม่ควรกินยามาก
เมื่อคนเรามีอายุสูงขึ้นความเจ็บไข้ได้ป่วยมักจะมาเยือนอยู่บ่อยๆ  คนที่มีอายุมากขึ้นจึงหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องรับประทานยานานาชนิดอยู่เป็นประจำ  แต่มีความจริงข้อหนึ่งที่เรายังไม่ตระหนักกันว่ายาบางชนิดที่คนสูงอายุต้องรับประทานเข้าไปบ่อยๆ  หรือทุกวี่ทุกวันนั้นกลับไปทำให้คนสูงอายุตกอยู่ในสภาวะที่ร่างกายขาดสารอาหาร  ยาบางชนิดจะขับวิตามินและแร่ธาตุสำคัญออกไปจากร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินดี  วิตามินอี วิตามินเค ไนอาซิน และปริมาณสังกะสี แมกนีเซียม  โพรแทสเซียมก็จะลดลงไปไม่น้อยอีกด้วย  มียาอีกหลายชนิดที่แม้จะมีสรรพคุณเยียวยารักษาโรคหรืออาการบางอย่างได้ดีแต่ก็มีสารที่ไปทำลายสมองของผู้ป่วย  โดยเฉพาะยาของคนป่วยเป็นโรคความดันโลหิตโรคพิษสุรา โรคเกี่ยวกับจิตประสาท  มักมีสารที่กระทบกระเทือนทำให้สมองไม่คึกคักสดชื่นและระบบการเผาผลาญในร่างกายทำงานได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ  ดังนั้นถ้าลดการรับประทานยาประเภทระงับอาการต่างๆ  ลงไปได้บ้างก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคนอายุมากอย่างแน่นอน