ซึ้งมาก อยากแชร์ต่อ สิ่งเดียว ที่พ่อแม่ต้องการจากเรามากที่สุดคือ ….

ใกล้วันแม่แล้ว ก็อดที่จะเขียนถึงเรื่องของพ่อแม่ไม่ได้นะครับ

ในสมัยเด็กๆ งานวันแม่ของทุกปี ก็จะเป็นงานที่เด็กๆ หลายคนได้น้ำตาซึม เพราะได้ระลึกถึงพระคุณของแม่

คนที่น้ำตาซึมมีอยู่สองพวก

พวกแรกคือ ซาบซึ้งในพระคุณของแม่ กราบแม่ มอบดอกมะลิให้แม่ ร้องเพลงวันแม่

ส่วนพวกที่สองคือ พวกที่ชะเง้อรอคอยแม่ แต่แม่เบี้ยว ไม่ยอมมา ซึ่งก็น่าเห็นใจเด็กๆ เหล่านั้น เช่นกัน

ผมเองเป็นเด็กกลุ่มแรก แต่ก็ยังรู้สึกสงสัยในตัวแม่ของเพื่อนๆ เหล่านั้น ว่าทำไมไม่ยอมมาหาลูกในงานวันแม่

โตแล้วถึงได้เข้าใจ

แม่ของเพื่อนบางคนมีธุระสำคัญจริงๆ แม่บางคนก็รู้สึกเขินอาย ที่จะต้องมาเข้าพิธีแบบนี้

ซึ่งไม่ต่างจากเพื่อนบางคนเช่นกัน ถ้าโรงเรียนไม่บังคับ ก็คงไม่มางานแบบนี้ เพราะมันอาย ที่จะต้องมาแสดงความรักแม่ ต่อหน้าคนอื่น ฟอร์มมันเยอะ แม่ฉัน ฉันรัก ไม่ต้องให้ใครเห็นก็ได้

ยังไงก็แล้วแต่ คนไม่เข้าร่วมพิธีก็ไม่ผิด คนร่วมก็ไม่ผิด เพราะการรักแม่ ไม่ได้ทำกันเฉพาะวันแม่ สำคัญที่ต้องทำทุกวัน สม่ำเสมอ และไม่ต้องให้ร้องขอ

ตัดภาพมาที่ตอนโต

ทุกๆ วันแม่ คนที่ชะเง้อรอคอย กลับไม่ใช่ลูก กลับกลายเป็นแม่ ชะเง้อหาลูกแทน

ด้วยหน้าที่การงาน ด้วยเวลา ทำให้หลายคนต้องจากแม่มาไกลบ้าน ทำให้เราเริ่มห่างแม่

บางคนแม้จะอยู่ในกรุงเทพฯ เหมือนกับแม่ ก็เลือกที่จะออกมาอยู่คอนโด ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แทนที่จะอยู่ข้างๆ เพื่อดูแลแม่

บางคนแต่งงานไปแล้วก็ลืมว่าเคยมีแม่ ทั้งที่ตัวเองต้องทำหน้าที่แม่ (หรือพ่อ) อยู่ทุกวันแท้ๆ

และเราจะได้ทำดีๆ ระลึกถึงคุณพ่อแม่ ก็เฉพาะตอนวันแม่เท่านั้นแหละ เราสามารถรวมหมู่พี่น้อง พาพ่อแม่ไปกินข้าว ถ่ายรูปรวมครอบครัว อัพรูปขึ้นเฟสบุ๊ค เพื่ออวดเพื่อนๆ ว่าฉันรักแม่

แต่เราทำแค่วันเดียวเอง น้อยคนนักที่จะอวดรูปแม่ทุกวัน นี่ยังดีนะที่มีวันแม่ ไม่งั้นแม่คงหมดโอกาสเห็นความรักจากลูก

อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกดีๆ อีกไม่น้อย ที่คอยเลี้ยงดู เอาใจใส่พ่อแม่ ตอบแทนบุญคุณ และไม่ลืมที่จะหยิบยืนเงินทอง เพื่อเลี้ยงดูการใช้ชีวิตของพ่อแม่ ในโอกาสสำคัญ ก็พาพ่อแม่ไปกินอาหารดีๆ ไปท่องเที่ยว ใช้ชีวิตดีๆ เพื่อให้แม่มีความสุข

แต่ คุณเคยสังเกตกันบ้างมั้ยว่า พ่อแม่เรามีความสุขกับสิ่งเหล่านี้รึเปล่า

“ ไม่ต้องกินแพงๆ ก็ได้ลูก เอาแค่พออิ่ม ขอแค่ลูกพาไปกินอะไรก็อร่อย”

“ซื้อมาทำไมแพงๆ แม่ใช้อะไรก็ได้ “

“ ไปเที่ยวใกล้ๆ ก็ได้ ไม่ต้องไปเมืองนอกให้มันแพงๆ “

เคยสังเกตคำพูดเหล่านี้กันบ้างมั้ย?

ถ้าคุณยังทำแบบนี้อยู่ ถือว่าคุณตกวิชาการตลาด เพราะคุณไม่เข้าใจพ่อแม่ที่เป็นลูกค้าของคุณ

คุณไม่เข้าใจว่าพ่อแม่คุณต้องการอะไร

สิ่งที่คุณหยิบยื่นให้ท่าน คือสิ่งที่ท่านต้องการจริงๆ หรือ เป็นสิ่งที่คุณต้องการให้ท่านกันแน่

คุณเอาแต่ให้ในสิ่งที่คุณคิดว่าท่านต้องการ แต่จริงๆ แล้ว พ่อแม่ไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านี้เลย

แล้วพ่อแม่ต้องการอะไรจากเรา?

สิ่งที่พ่อแม่ต้องการจากเราจริงๆ ก็คือ..

“ความสำเร็จในชีวิตของลูก“

ท่านอยากให้ลูกของท่านดูแลตัวเองได้ พึ่งพาตัวเองได้ หาเลี้ยงชีพเองได้ มีครอบครัว มีคนดูแล เพราะวันนึงเมื่อท่านไม่อยู่แล้ว ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง มันง่ายๆ แค่นี้เองครับ

อาหารดีๆ เสื้อผ้าแพงๆ บ้านหลังใหญ่ๆ รถคันงามๆ ไม่เคยอยู่ในหัวของลูกค้าคนนี้เลย

ถ้าในครอบครัวคุณ มีพี่น้องที่ยังเอาตัวไม่รอดอยู่ คุณจะสังเกตว่าพ่อแม่ของคุณจะห่วงเค้ามากกว่าคุณ ก็เหตุผลเดียวกันครับ ไม่ต้องน้อยใจ เพราะใครๆ ก็อยากให้ลูกตัวเองไม่ลำบาก

ถ้าคุณเอาตัวเองรอดแล้ว ก็ภูมิใจเถอะว่า คุณทำให้พ่อแม่มีความสุขแล้ว

แต่ถ้าคุณยังเอาตัวไม่รอด ก็รีบๆ เอาตัวให้รอดซะนะครับ เพราะนั่นคือของขวัญชิ้นเดียวบนโลกใบนี้ ที่ท่านรอจากคุณอยู่

รีบๆ ทำนะครับ คุณกับท่าน เกิดมาเป็นพ่อแม่ลูกกัน แค่เวลาไม่กี่สิบปีเอง

Leave a Reply